ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง              

               มาตรา 357 การบังคับคดีในกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลกำหนดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษากระทำนิติกรรมอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอาจถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ และคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลไม่ได้กำหนดให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นได้

               ถ้าการแสดงเจตนาของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะบริบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจมีคำขอให้ศาลสั่งให้ดำเนินการจดทะเบียนให้ก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ ให้บุคคลดังกล่าวนั้นจดทะเบียนไปตามคำสั่งศาล

               ถ้าหนังสือสำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน ใบจอง หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ใบทะเบียน หรือเอกสารสิทธิที่จะต้องใช้เพื่อการจดทะเบียนสูญหาย บุบสลาย หรือนำมาไม่ได้เพราะเหตุอื่นใด ศาลจะสั่งให้นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายออกใบแทนหนังสือสำคัญดังกล่าวก็ได้ เมื่อได้ออกใบแทนแล้ว หนังสือสำคัญเดิมเป็นอันยกเลิก

 

หมายเหตุ

               ฎีกาที่ 3459/2564 คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการโอนที่ดินและบ้านบนที่ดินโฉนดที่จำเลย ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. โอนให้แก่จำเลย ให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนเพิกถอนการโอนด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลย หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาโจทก์สามารถดำเนินการโดยใช้คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 357 โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการบังคับคดี 

               ฎีกาที่ 1148/2565 เมื่อโจทก์ทั้งสองเห็นว่าตนได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอม โดยชำระเงินจำนวน 600,000 บาท ให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองและส่งมอบต้นฉบับโฉนดที่ดินที่จำนองแก่โจทก์ทั้งสองตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์ทั้งสองชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งเป็นคำร้องขอที่เสนอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ซึ่งคำร้องขอนั้นจำต้องมีคำวินิจฉัยของศาลก่อนที่การบังคับคดีจะดำเนินไปได้โดยครบถ้วนและถูกต้องซึ่งต้องร้องขอเข้าไปในคดีเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7 (2) อันเป็นการร้องขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการในชั้นบังคับคดีในคดีก่อนโดยไต่สวนข้อโต้แย้งของโจทก์ทั้งสองและจำเลยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอม หากได้ความตามข้ออ้างของโจทก์ทั้งสอง ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะมีคำสั่งกำหนดวิธีการบังคับคดีแก่จำเลยตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีในหนี้กระทำการตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 357 และมาตรา 358 หากไม่ได้ความดังกล่าวศาลชั้นต้นก็ชอบที่ จะยกคำร้องของโจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองไม่อาจนำข้อพิพาทในชั้นบังคับคดีมาฟ้องร้องจำเลยให้รับผิดตามสัญญาประนีประนอม ยอมความซึ่งได้มีคำพิพากษาตามยอมเป็นคดีใหม่ได้ โจทก์ทั้งสองไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้