ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา 7 ถ้าจะต้องเสียดอกเบี้ยแก่กันและมิได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรมหรือ โดยบทกฎหมายอันชัดแจ้ง ให้ใช้อัตราร้อยละสามต่อปี

               อัตราตามวรรคหนึ่งอาจปรับเปลี่ยนให้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ของประเทศได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยปกติให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนทุกสามปี ให้ใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์

 

คำอธิบาย

               กำหนดอัตราดอกเบี้ยในนิติกรรม จะต้องกำหนดไว้โดยชัดแจ้ง ถ้าไม่ชัดแจ้งให้ใช้อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

               ปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

               สัญญากู้ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ จะนำพยานบุคคลมาเบิกความว่าสัญญากู้ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ร้อยละ 16 ต่อปี ไม่ได้(ฎีกาที่ 9866/2544)

               ฎีกาที่ 1608/2552 สัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกำหนดให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระมาแล้วทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามอัตราเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งไม่ชัดแจ้งว่ามีอัตรา เท่าใด จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 ที่ให้ใช้อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

               ฎีกาที่ 4936/2545 ปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้มิได้มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ก็มีอำนาจยกข้อกฎหมายดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยเองได้

               ฎีกาที่ 1759/2545 สัญญากู้ยืมเงินไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เพียงแต่กำหนดให้จำเลยชำระดอกเบี้ยทุกวันสิ้นเดือน โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

               ฎีกาที่ 6442/2543 ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีตามคำขอท้ายฟ้อง แต่สัญญากู้เงินที่โจทก์นำมาฟ้องกำหนดให้คิดดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนดแต่ไม่ได้กำหนดอัตราว่าเท่าใด จึงต้องคิดดอกเบี้ยกันร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี