ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์       

               มาตรา 1599 เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท

               ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น

 

หมายเหตุ

 

1.การเกิดมรดก มรดกเกิดขึ้นเมื่อมีความตายของบุคคล และมรดกจะตกทอดแก่ทายาท

               บุคคลที่จะต้องถึงแก่ความตาย จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น นิติบุคคลไม่อาจถึงแก่ความตายได้

2. ความตายของบุคคลธรรมดาที่ก่อให้เกิดมรดก มี 2 ประการ

               2.1 ตายตามความเป็นจริงหรือตายตามธรรมชาติ

               การตายแพทย์จะเป็นผู้ยืนยันว่าตายแล้วหรือไม่ ตายเมื่อใด ตายด้วยสาเหตุใด ระยะเวลาที่ตายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นผลว่ามรดกจะตกทอดแก่ทายาทเมื่อใด

               ในกรณีบุคคล 2 คน ตายในเหตุภยันตรายร่วมกัน เช่น บิดาและบุตร ดูฎีกาที่ 13129/2556

                 ฎีกาที่ 13129/2556 ธ. ซึ่งเป็นบุตรของ ก. และ ก. ตายพร้อมกัน ต่างไม่เป็นทายาทที่จะรับมรดกของกันและกัน เพราะในขณะที่บุคคลหนึ่งถึงแก่ความตายอีกบุคคลหนึ่งไม่มีสภาพบุคคล ที่มีความสามารถที่จะมีสิทธิได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 15 และมาตรา 1604 วรรคหนึ่ง และกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 1639 เนื่องจาก ธ. ทายาทไม่ได้ตายก่อน ก. เจ้ามรดกอันจะทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุตรของ ธ. มีสิทธิรับมรดกแทนที่ ธ. โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเอาทรัพย์มรดกของ ก.

               2.2 ตายโดยผลของกฎหมายหรือตายโดยนิตินัย ที่เรียกว่า คนสาบสูญ

               คนสาบสูญ คือ คนที่ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 2 ปี แล้วแต่กรณี และศาลมีคำสั่งว่าเป็นคนสาบสูญ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 61 และ 62

               การตายโดยผลของกฎหมายจะต้องมีคำสั่งศาลว่าเป็นคนสาบสูญก่อน ต้องมีการยื่นคำร้องขอต่อศาลอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท โดยในขณะยื่นคำร้องระยะเวลา 5 ปี หรือ 2 ปี ต้องล่วงพ้นไปแล้ว หากขณะยื่นคำร้องกำหนดระยะเวลา 5 ปี หรือ 2 ปี ยังไม่ล่วงพ้นไป ศาลต้องมีคำสั่งยกคำร้อง(ฎีกาที่ 5770/2548)

 

อ้างอิง

สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา. รวมคำบรรยาย ภาคหนึ่ง สมัยที่ 72 ปีการศึกษา 2562 เล่มที่ 1.