ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 420
ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี
แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี
ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
หมายเหตุ
1.การผิดสัญญาอาจเป็นได้ทั้งผิดสัญญาและละเมิดได้
ฎีกาที่ 974/2492
ในทางแพ่ง
กฎหมายไม่บังคับว่า การฟ้องคดีที่ทำได้ทั้งละเมิดและผิดสัญญานั้นโจทก์จะต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง
โจทก์จะฟ้องโดยบรรยายข้อเท็จจริงและเรียกค่าเสียหายมาเฉย ๆ ก็ได้
ศาลมีหน้าที่ต้องนำเอาตัวบทกฎหมายมาปรับแก่คดีนั้นว่า
ตามฟ้องโจทก์นั้นมีกฎหมายให้โจทก์ได้ค่าเสียหายตามฟ้องหรือไม่
2.จงใจหรือประมาทเลินเล่อ
2.1 จงใจ
ฎีกาที่ 1104/2509
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ถือว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อผู้ตายแล้ว
เพราะการที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายก็เป็นการกระทำโดยจงใจทำร้ายผู้ตายโดยผิดกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว
แม้จะไม่มีเจตนาฆ่าก็ได้ชื่อว่ากระทำละเมิด แต่การละเมิดนั้นถึงกับมีเจตนาจะฆ่าหรือทำให้ตายโดยไม่มีเจตนานั้นเป็นเรื่องของเจตนาในการทำผิดทางอาญา
เจตนากระทำกับจงใจกระทำจะตีความอนุโลมอย่างเดียวกันมิได้
ฎีกาที่ 7121/2560
จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายแม้กระทำโดยบันดาลโทสะ
แต่ก็เป็นการกระทำโดยจงใจต่อผู้ตายโดยผิดกฎหมาย จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ตาย
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420 จำเลยมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
2.1
กระทำโดยประมาทเลินเล่อ
ฎีกาที่ 769/2510
จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียว ขณะหยุดรถรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกาได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่
และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนาตามพฤติการณ์เช่นนี้
จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้
เพราะบุคคลที่อยู่ในภาวะตกตะลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่รถชนกันนั้น
3.การ “ทำ” หมายความรวมถึงการละเว้นหรืองดเว้นหน้าที่เมื่อมีหน้าที่ต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
ฎีกาที่ 2600/2538
การละเว้นกระทำไม่ถือว่าเป็นการกระทำอันจะเป็นละเมิด เว้นแต่เป็นการละเว้นกระทำในเมื่อมีหน้าที่ต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นจึงจะถือได้ว่าเป็นการกระทำอันจะเป็นละเมิด
4.โดยผิดกฎหมาย
เช่น
การดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบ(ฎีกาที่ 10409/2555)
แต่การละเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา ไม่เป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย(ฎีกาที่ 6114/2540)
5.ทำให้เขาเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สินหรือสิทธิ
5.1
เสียหายแก่ร่างกาย อนามัย
เช่น
จำเลยใช้อาวุธปืนข่มขู่(ฎีกาที่ 4571/2556)
5.2
เสียหายต่ออนามัย
เหตุที่ทำให้กระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรง
ทำให้ได้รับความเสียหายทางด้านจิตใจ เป็นความเสียหายแก่อนามัย(ฎีกาที่ 9042/2560)
5.3
ความเสียหายต่อสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง
ค่าเสียหายที่โจทก์มีสิทธิเรียกจากจำเลยผู้ทำละเมิดได้ตามกฎหมายเป็นความเสียหายดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 420 เท่านั้น โดยเฉพาะความเสียหายต่อสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น หมายถึงสิทธิที่กฎหมายรับรองคุ้มครองให้ถูกทำให้เสียหาย และจำเลยจะต้องทำให้สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดที่โจทก์มีอยู่เสียหายไป(ฎีกาที่ 404/2555)
0 ความคิดเห็น