ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 142 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย
หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน หรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้
หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง
หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หมายเหตุ
ฎีกาที่ 9567/2544
เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม ป. สั่งให้ ป. ส่งเมทแอมเฟตามีนที่ ป.
ถืออยู่เพื่อเป็นพยานหลักฐาน การที่จำเลยนำถุงบรรจุเมทแอมเฟตามีนจากมือของ ป.
หลบหนีไป
เป็นการเอาไปเสียซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่เจ้าพนักงานสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน
มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 142
ฎีกาที่ 3964/2532
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184จะต้องเป็นการกระทำเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
การที่จำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน 12 ท่อน
ที่พนักงานสอบสวนได้ยึดและรักษาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้
โดยไม้ดังกล่าวมีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน
และกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่นั้น
จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองให้พ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ
การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184 แต่เป็นความผิดตามมาตรา 142
ฎีกาที่ 3038/2530
จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของไม้สักแปรรูป 166
แผ่น อันเป็นไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในวันเกิดเหตุ เจ้าพนักงานได้ยึดไม้สักแปรรูปดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นของกลาง 108 แผ่นนำกลับไปที่หน่วยแล้วตีตรายึดไว้ทุกแผ่น
จำเลยทั้งสี่ร่วมกันจุดไปเผาไม้สักแปรรูป 6 แผ่น
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เหลือจากการยึด
ในวันรุ่งขึ้นพนักงานสอบสวนจึงยึดไม้ที่เหลือจากการถูกเผาอีก 52 แผ่น เช่นนี้ ไม้สักแปรรูป 6 แผ่นที่จำเลยทั้งสี่กับพวกร่วมกันเผายังไม่ใช่เป็นไม้ที่เจ้าพนักงานได้ยึดไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐาน
จำเลยทั้งสี่ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 ประกอบด้วยมาตรา
80
0 ความคิดเห็น